http://www.learners.in.th/blog/natchakan/386486 ทฤษฏีนี้มีความเชื่อพื้นฐานที่สำคัญ 2 ประการ คือ
1. เชาวน์ปัญญาของบุคคลมิได้มีเพียงความสามารถทางภาษาและทางคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่มีอยู่อย่างหลากหลายถึง 8 ประเภทด้วยกัน ประกอบด้วย
- เชาวน์ปัญญาด้านภาษา(Linguistic intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านคณิตศาสตร์หรือการใช้เหตุผลเชิงตรรกะ(Logical mathematical intelligence)
- สติปัญญาด้านมิติสัมพันธ์(Spatial intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านดนตรี(Musical intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านการเคลื่อนไหวร่างกายและกล้ามเนื้อ(Bodily kinesthetic intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านความสัมพันธ์กับผู้อื่น(Interpersonal intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง(Intrapersonal intelligence)
- เชาวน์ปัญญาด้านความเข้าใจธรรมชาติ(Naturalist intelligence)
เชาวน์ปัญญาของแต่ละคนอาจจะมีมากกว่านี้ คนแต่ละคนจะมีความสามารถเฉพาะด้านที่แตกต่างไปจากคนอื่น และมีความสามารถในด้านต่างๆ ไม่เท่ากัน
2. เชาวน์ปัญญาของแต่ละบุคคลจะไม่อยู่คงที่อยู่ที่ระดับที่ตนมีตอนเกิด แต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ หากได้รับการส่งเสริมที่เหมาะสมhttp://portal.edu.chula.ac.th/kanapat.a/blog/view.phpBid=1277087712682715&msite=kanapat.a กล่าวถึงทฤษฎีนี้ว่า มีแนวคิดที่ว่า " สติปัญญาของมนุษย์มีหลายด้านที่มีความสำคัญเท่าเทียมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครจะโดดเด่นในด้านไหน แล้วแต่ละด้านผสมผสานกัน แสดงออกมาเป็นความสามารถในเรื่องใด เป็นลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละคนไป
(http://www.gotoknow.org/blog/prachyanun/66567) ได้รวบรวมแล้วกล่าวไว้ว่า ทฤษฎีพหุปัญญาของศาสตราจารย์ โฮเวริ์ด การ์ดเนอร์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด กล่าวถึง
ความฉลาดของมนุษย์ไม่ว่าจะในเด็กหรือผู้ใหญ่ จะมีอยู่ด้วยกัน 9 ประการคือ1. ความฉลาดในการใช้ภาษา
2. ความฉลาดในด้านตรรกะและคณิตศาสตร์
3. ความฉลาดในด้านจินตนาการ
4. ความฉลาดในด้านควบคุมร่างกาย
5. ความฉลาดในด้านดนตรี
6. ความฉลาดในด้านความมีมนุษย์สัมพันธ์
7. ความฉลาดในด้านการเข้าใจตนเอง
8. ความฉลาดในการเข้าใจธรรมชาติ
ทฤษฎีของโฮวาร์ด การ์ดเนอร์ ได้รับมีการเพิ่มเติมขึ้นเป็น 9 ประการคือ
9. ความฉลาดในการใช้ชีวิต
สรุป
ความสามารถในการแก้ปัญหาในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ หรือการสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ มีความสัมพันธ์กับบริบททางวัฒนธรรมในแต่ละแห่ง และนักการศึกษาจะตระหนักถึงการทำการทดสอบทางสติปัญญาที่เคยปฏิบัติกันสมัยก่อนว่าไม่มีความเหมาะสมเพียงพอที่จะวัดสติปัญญาเพียงด้านเดียว ซึ่งเรารู้เองว่ามีการแสดงออกทางสติปัญญาได้หลากหลายวิธีและรู้ว่าสติปัญญาสามารถได้รับการฝึกฝนและพัฒนาสืบต่อไป
อ้างอิง
URL: (http://www.gotoknow.org/blog/prachyanun/66567)เข้าถึงเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2554
URL:http://www.learners.in.th/blog/natchakan/386486
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น